เชื่อใจตนเองหรือเชื่อฟังพระเจ้า
"'แต่ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าอย่าให้เราแตะต้องผู้ที่
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเจิมตั้งไว้
ให้เราเอาหอกและเหยือกข้างพระเศียรของ
พระองค์ไปกันเถิด"
(1ซามูเอล 26:1)
ดาวิดมีโอกาสเหมาะไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่สองครั้ง แต่ท่านก็เลือกที่จะรอ
ต้องเผชิญการทดลองถึงสองครั้ง ควรจะฆ่ากษัตริย์ที่กำลังเผลอ
หรือรอให้เป็นเวลาของพระเจ้าดี?
ดาวิดเลือกที่จะรอ แลดูเหมือนท่านเลือกทำ
"แผน B"
ดาวิดใช้เวลาหลายปีรอคอยนับแต่วันที่ได้รับการเจิมตั้งขึ้น
เป็นกษัตริย์แห่งอิสราเอล
ไปจนถึงเวลาที่ได้ขึ้นครองจริงๆ
ท่านใช้เวลาระหว่างนั้นเลี้ยงแกะอยู่ในทุ่ง
เล่นดนตรีให้กษัตริย์ซาอูลฟังในวัง
และหลบซ่อนตัวอยู่ในถ้ำขณะหนีการตามฆ่า
ด้วยความแค้นของซาอูล ถึงกระนั้น
บทเพลงในหนังสือสดุดี เราเห็นว่าท่านไม่เคยสูญเสียความเชื่อ
แทนที่จะผิดหวังว่าทุกอย่างไม่ได้เป็นไปตามแผน A ดาวิดประกาศว่า
"แต่ส่วนข้าพเจ้าเป็นเหมือนต้นมะกอกงอกงามในพระนิเวศของพระเจ้า
ข้าพเจ้าพึ่งในความรักมั่นคงของพระเจ้าตลอดนิรันดร์
ข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์เป็นนิตย์
สำหรับสิ่งที่พระองค์ได้ทรงกระทำ
ข้าพระองค์จะฝากความหวังไว้กับพระนามของพระองค์
เพราะพระนามนั้นประเสริฐ
ข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์ต่อหน้าบรรดาประชากรของพระองค์" (สดุดี
52:8-9 อมตธรรม)
ท่านวางใจว่าพระเจ้าจะไม่ปล่อยให้แม้แต่เพียงชั่วครู่
ในสถานการณ์หรือการทดสอบสูญเสียไป
ท่านยึดมั่นและเชื่อว่าทุกๆเหตุการณ์สามารถนำไป
ถึงพระสัญญาที่พระองค์ให้ไว้ก่อนหน้านี้หลายปีได้
ท่านยึดมั่นในความหวังใจว่า วันหนึ่งข้างหน้า
จะได้ขึ้นครองเป็นกษัตริย์โดยไม่จำเป็นต้องเสาะแสวงหาด้วยมือตนเอง
แล้ววันนั้นก็มาถึง หลังจากการไว้ทุกข์ให้ซาอูลและโยนาธานผ่านไป
ดาวิดทูลถามพระเจ้า ทำตามที่พระองค์สั่ง และได้ขึ้นครองเป็นกษัตริย์
ท่านพร้อมแล้วที่จะก้าวไปตามแผนการอันสมบูรณ์ของพระเจ้า
และตามเวลาที่พระองค์จัดเตรียมไว้ ท่านไม่เคยมองกลับไปที่ทุ่งนา
หรือที่ในถ้ำ ท่านก้าวขึ้นสู่บัลลังก์ด้วยประสบการณ์
และพระปัญญาที่พระเจ้าประทานให้ผ่านขั้นตอนต่างๆ
หลายขั้นจนไปถึงวันสำคัญนั้น
ฉันเองก็ต้องตัดสินใจในเรื่องที่คล้ายๆกันขณะถามตัวเอง
ด้วยคำถามเหล่านี้ :
ฉันควรจะรอให้พระสัญญาของพระองค์สำเร็จ
เป็นจริงในเวลาของพระองค์
หรือจำเป็นต้องลงมือทำบางอย่างด้วยตัวเอง?
ขณะที่กำลังเดินหน้าทำในสิ่งที่เชื่อ
ว่าพระองค์ทรงเรียกให้ทำ
ฉันจะวางใจพระองค์ได้อย่างไร
ว่าจะทรงใช้ทุกๆก้าวระหว่างทาง
เพื่อทำในสิ่งที่ถูกต้องและถวายกียรติแด่พระองค์?
เมื่อถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนแปลง
ฉันกล้าก้าวเดินออกไปสู่สิ่งใหม่ๆที่น่าตื่นเต้น
หรือฉันควรจะหันหลังกลับไปมองที่เดิม
และตัดสินใจกลับไปอยู่ในที่ๆปลอดภัยและคุ้นเคยดีกว่า?
นี่เป็นการตัดสินใจที่ท้าทายมาตลอดทั้งปี ก่อนหน้านี้
ฉันได้ยินพระองค์ตรัสเรียกพร้อมด้วยพระสัญญาในใจ
ฉันมองกลับไปที่การศึกษา
หน้าที่การงาน และประสบการณ์ต่างๆที่
หล่อหลอมขึ้นเป็นความฝันของฉัน
ทำให้บางครั้งแผนเหล่านั้นกลับเป็นเหมือน
แผน B แต่ไม่ใช่เลย
ทุกก้าวที่เดินไปด้วยใจที่เชื่อฟังได้นำฉันไปสู่ที่แห่งใหม่
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ฉันต้องตัดสินใจเลือ
กว่าจะทำงานอยู่ที่เดิมดี
หรือไปมองหาสิ่งใหม่ๆที่ดีกว่า เป็นงานที่ถูกเรียกมาตั้งแต่อดีต
แต่ครั้งนี้พระเจ้าตรัสว่า "ไม่"
ทรงทำให้ฉันตระหนักได้ว่าถ้าเลือกงานนี้
ก็เท่ากับฉันกำลังเลือกแผน B
และที่แย่กว่าคือไม่เชื่อฟัง
พระเจ้าทรงเรียกให้ลูกๆของพระองค์เดินอยู่ในแผน A
ซึ่งอาจไม่สะดวกสบาย
ต้องอดทนรอคอย และเผชิญการทดสอบในเส้นทางนี้
แต่การเชื่อฟังคือการเดินอยู่ในแผน A เสมอ
และเป็นที่ๆพระพรของพระองค์รออยู่
โดย : Amy Carroll
Encouragement for today:
www.crosswalk.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น