การกดขี่คริสเตียนในประเทศเกาหลีเหนือ

From: reewat@hotmail.com
To: kaochristian.editor@gmail.com
Subject: การกดขี่คริสเตียนในประเทศเกาหลีเหนือ
Date: Thu, 30 Sep 2010 11:33:20 +0000

Execution of Underground Chirstians in North Korea

Christiantoday.com  (English and Thai)
นิตยสารคริสเตียนทูเดย์ออนไลน์

 

เกาหลีเหนือได้สังหารผู้นำคริสตจักรใต้ดินของเกาหลีเหนือ และสั่งคุมขังคริสเตียนอีก 20 คน

แม้ว่าการการสั่งลงโทษดังกล่าวจะเกิดขึ้นตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานานหลายเดือนแล้ว แต่เพิ่งจะมีข่าวเผยแพร่ออกมาในเดือนนี้

ตามการกล่าวอ้างของสำนักข่าวเอเชียนิวส์ ตำรวจเกาหลีเหนือได้บุกตรวจค้นบ้านของ คูวานดอง ในตำบล พยังซัง, จังหวัดพยังกอง  ตำรวจได้จับกุมผู้เชื่อพระเยซูทั้ง 23 คนที่มารวมตัวกันเพื่อกิจกรรมทางศาสนา
 

ผู้นำคริสเตียนถูกประหารชีวิตหลังจากถูกจับกุมไม่นานนัก  อีก 20 คนที่เหลือได้รับรายงานว่าถูกส่งไปค่ายใช้แรงงาน หมายเลข 15 ในเมือง ยอด๊อก ทั้ง 23 คนที่ถูกจับกุม ได้หันมานับถือพระเยซูหลังจากที่พวกเขาได้เดินทางไปทำธุรกิจที่ประเทศจีน และได้พบกับสมาชิกของคริสตจักรบางคนที่นั่น

กลุ่มเคลื่อนไหวชาวเกาหลีเหนือที่แปรพักตร์จากรัฐบาลเกาหลีเหนือที่ประการอยู่ในกรุงโซลประเทศเกาหลีใต้ได้ยืนยันข่าวนี้  กลุ่มผู้เคลื่อนไหวนี้พยายามสร้างความตระหนักแก่สังคมโลกว่ามีการปฏิบัติที่ไม่ชอบธรรมอยู่ในประเทศเกาหลีเหนือ

 

เป็นเวลา 8 ปีมาแล้วที่กลุ่ม Open Doors ได้จัดลำดับประเทศเกาหลีเหนือเป็นประเทศที่เลวร้ายที่สุดที่กดขี่และกวาดล้างคริสเตียน

ในปี ค.ศ. 2009 สมาคมผู้สื่อข่าวได้รายงานว่า ผู้หญิงคริสเตียนคนหนึ่งอายุประมาณ 33 ปี ในขณะที่เธอพยายามแจกจ่ายพระคัมภีร์ไบเบิ้ล  เธอจับกุมและถูกยัดเยียดข้อหาเป็นสายลับให้แต่คนต่างชาติ  ในที่สุดเธอถูกฆ่าตายต่อหน้าสาธารณชนในประเทศเกาหลีเหนือ

คาดว่ามีคริสเตียนในประเทศเกาหลีเหนือประมาณ 400,000 คน คนเหล่านี้ถูกข่มเหง ถูกคุมขัง ทรมาน และถูกทำทารุณกรรมต่อหน้าสาธารณะชนเพียงเพราะเจ้าหน้าที่รัฐบาลได้พบเห็นว่าพวกเขามีความเชื่อแบบคริสเตียน

การเป็นคริสเตียนในประเทศเกาหลีเหนือรัฐบาลของเขาถือว่าเป็นการความผิดทางอาญาร้ายแรง  ประชาชนทุกคนถูกบังคับให้ยึดหมั่นกับลัทธิบูชาบุคคล  การเชื่อหมั่นศรัทธาต่อผู้นำเผด็จการ และวิญญาณบรรพบุรุธของผู้นำเผด็จการ

ไม่มีความเชื่อทางศาสนาหรือลัทธิความเชื่อใดๆ ได้รับอนุญาตให้มีอยู่ในประเทศเกาหลีเหนือ

ประมาณการว่ามีผู้เชื่อที่เป็นคริสเตียนประมาณ 40,000-60,000 คน ถูกกักขัง หรือถูกส่งไปค่ายกักให้ใช้แรงงาน เพราะพวกเขาความเชื่อที่มีต่อพระเยซู

กลุ่ม The Voice of Martyrs Canada (กลุ่มเสียงร้องจากผู้พลีเพื่อพระคริสต์ในประเทศคานาดา) ได้กล่าวเรียกร้อง

ขอให้เราช่วยกันอธิษฐานเผื่อผู้เชื่อพระเยซูในประเทศเกาหลีเหนือด้วย เพราะพวกเขาอยู่ในภาวะเสี่ยงภัยอย่างมาก

ขอให้ผู้เชื่อพระเจ้าชาวเกาหลีเหนือมีโอกาสได้พบปะกัน และได้หนุนใจซึ่งกันและกันในความเชื่อ


แปลและเผยแพร่ โดย RW-

http://reewat.blogspot.com


ที่มา ของข่าว

http://www.christiantoday.com/article/north.korea.executes.underground.church.leaders/26540.htm


North Korea has executed three leaders of the underground church and jailed 20 other Christians, reports a news agency focused on Asia.
Although the execution and imprisonment happened in mid-May, news only got out this month.
According to AsiaNews, North Korean police raided a house in Kuwal-dong in Pyungsung county, Pyongan province, and arrested all 23 believers who were gathered there for religious activity.
The leaders were sentenced to death and soon after executed. The other 20 were reportedly sent to the infamous prison labour camp No 15 in Yodok. The 23 Christians had come to faith after some of them travelled to China on business and met with church members there.
North Korea Intellectual Solidarity, a group of North Korean defectors based in Seoul that seeks to raise awareness about injustice in North Korea, confirmed the events.
For eight straight years, Open Doors has ranked North Korea as the world's worst persecutor of Christians.
In 2009, the Associated Press reported that a 33-year-old Christian woman accused of distributing Bibles and "spying" for foreign countries was publicly executed in North Korea.
There are an estimated 400,000 Christians in North Korea who live under the constant threat of imprisonment, torture or public execution if authorities discover their Christian faith.
Being a Christian in North Korea is considered one of the worst crimes by the oppressive government. All citizens are forced to adhere to a personality cult revolving around the worship of the current dictator and his deceased father.
No other religious beliefs are allowed in the country.
An estimated 40,000 to 60,000 Christians are currently in prison labor camps because of their faith.
"Please pray for believers in North Korea who follow Jesus at great risk", urged The Voice of the Martyrs Canada.
"May they have opportunities to meet together and provide encouragement to one another."

http://www.christiantoday.com/article/north.korea.executes.underground.church.leaders/26540.htm

อยากมีความสุขฟังทางนี้ สดุดี 34.8


  บุคคลผู้ใดวางใจในพระเจ้าจะได้รับพระพร
 
 "ขอเชิญชิมดูแล้วจะเห็นว่า พระเจ้าประเสริฐ:
 คนที่ลี้ภัยอยู่ในพระองค์ก็เป็นสุข" (สดุดี 34:8)
 
 พระเยซูคริสต์ทรงประทานคำเทศนาบนภูเขา

เกี่ยวกับ "ผู้เป็นสุข" เป็นทัศนคติที่เราควรมี

คำสอนของพระองค์ไม่ใช่เป็นคำพูดซ้ำซาก
 แต่เป็นทัศนคติที่เกี่ยวข้องกับคุณลักษณะของชีวิตคริสเตียน
 
 ชื่อเสียงของคุณเป็นสิ่งที่คนอื่นคิดเกี่ยวกับคุณ...
 แต่คุณลักษณะเป็นสิ่งที่พระเจ้ารู้จักคุณ
 
 
 
 คำเทศนาบนภูเขาไม่ได้พูดว่า

"พระพรจะตกอยู่แก่สิ่งของที่คุณมี" หรือ
 "พระพรจะตกอยู่กับการกระทำของคุณ" แต่
 "พระพรจะตกอยู่กับความเป็นตัวตนของคุณ"

คนส่วนใหญ่ในโลกนี้กำลังทำสิ่งใด?
 พวกเขากำลังแสวงหาความสุข

ถ้าคุณแสวงหาความสุข คุณจะไม่มีวันพบมัน
 แต่ถ้าคุณถูกต้องจำเพาะพระพักตร์พระเจ้า

พระพรนั้นจะมาหาคุณเอง
 
 ถ้าคุณเป็นคนที่มองหาคุณค่าของตัวคุณเอง

จากสิ่งที่คุณมี หรือสิ่งที่คุณทำ
 สารภาพเสียต่อเบื้องพระพักตร์
 และเพ่งไปที่ทัศนคติที่คุณควรมี

จากคำเทศนาบนภูเขาในมัทธิว 5:3-11
 
 โดย: Pastor Adrian Rogers
 
 Daily devotional
 
 Love worth finding ministries: www.lwf.org
 
 http://www.churchofjoy.net/3644
Date: Sun, 8 Aug 2010 11:59:08 -0700


 Subject: [ข่าวคริสตชน www.KaoChristian.com]

 บุคคลผู้ใดวางใจในพระเจ้าจะได้รับพระพร
 From: editor@kaochristian.com
 To: christianthai@googlegroups.com

 

ต้นกำเนิดวันแม่ ทำอะไรให้แม่ดี

วันแม่ ทำอะไรให้แม่ดีนะ

คมชัดลึก :
 
ในสังคมโลก "วันแม่" เกิดขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.2457
ที่สหรัฐอเมริกา
เมื่อคุณครูผู้หญิงคนหนึ่งลุกขึ้นมาเสนอให้มีวันแม่ขึ้นอย่างเป็นทางการ
ซึ่งบรรลุความสำเร็จเมื่อประธานาธิบดีวูดโรว์ วิลสัน
ได้ประกาศให้ทุกวันอาทิตย์ที่สองของเดือนพฤษภาคมเป็น "วันแม่แห่งชาติ"
และมีดอกคาร์เนชั่นที่มีหน้าตาคล้ายๆ ดอกมะลิซ้อนบ้านเราเป็นสัญลักษณ์
แถมยังมีการแบ่งสีเอาไว้ด้วยว่ากรณีที่คุณแม่ยังมีชีวิตอยู่ใช้ดอกคาร์เนชั่นสีชมพู
แต่ถ้าคุณแม่เสียชีวิตไปแล้วเขาจะใช้ดอกคาร์เนชั่นสีขาว

ในบ้านเราประกาศให้มีวันแม่ตั้งแต่ พ.ศ.2493 โดยรัฐบาลจอมพลป.
พิบูลสงคราม กำหนดให้ทุกวันที่ 15 เมษายนของทุกปีเป็นวันแม่
และต่อมาได้เปลี่ยนเป็นวันที่ 12 สิงหาคม หรือวันเฉลิมพระชนมพรรษา
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เป็น "วันแม่แห่งชาติ" ตั้งแต่ พ.ศ.
2519 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน โดยระบุให้ดอกมะลิที่มีสีขาวบริสุทธิ์
มีกลิ่นหอมเย็นชื่นใจและหอมนาน เป็นดอกไม้สัญลักษณ์

สมัยก่อนเวลาพูดถึงวันแม่
ผู้คนส่วนใหญ่มักน้อมรำลึกถึงสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
เป็นสำคัญ นึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อปวงราษฎรของพระองค์
นึกถึงภาพที่พระองค์เสด็จพระราชดำเนินไปตามท้องถิ่นต่างๆ
พร้อมกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตลอดเวลา
นึกถึงภาพงานเฉลิมฉลองที่มีหน่วยราชการต่างๆ
พร้อมใจกันจัดขึ้นอย่างสนุกสนาน ครึกครื้น ด้วยมหรสพมากมาย
ซึ่งคนต่างจังหวัดที่เข้ามาทำมาหากินในกรุงเทพฯ
ก็มักถือเป็นโอกาสได้กลับไปเยี่ยมครอบครัว เยี่ยมพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย
ที่บ้านเกิด
ซึ่งก็ส่งผลให้วัดวาอารามตามหัวเมืองถือเป็นโอกาสพิเศษจัดงานเฉลิมฉลอง
เชิญชวนคนไปทำบุญได้อีกวาระหนึ่ง

เดี๋ยวนี้ คำว่าวันแม่ดูจะขยายวงกว้างออกไป
คือนอกเหนือจากกิจกรรมเพื่อเทิดพระเกียรติพระแม่แห่งแผ่นดิน
ซึ่งยังคงดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่องแล้ว
เรายังมีกิจกรรมเพื่อแม่ของประชาชนแต่ละคนด้วย ดังนั้น
วันแม่สมัยนี้เราจึงเห็นภาพกิจกรรมภายในครอบครัวรูปแบบต่างๆ
ที่ลูกๆแสดงออกถึงความรัก ความกตัญญูที่มีต่อแม่บังเกิดเกล้า

กิจกรรมยอดนิยมในอันดับต้นๆ น่าจะเป็นการพาแม่ไปเที่ยว
เพราะบางครอบครัวลูกกับแม่อาจไม่ค่อยไปเที่ยวด้วยกันบ่อยนัก
การพาแม่ไปทานอาหารนอกบ้าน เป็นมื้อพิเศษตามฐานะ
ซึ่งไม่จำเป็นต้องแพงหรือหรูหรา แต่อย่างน้อยก็น่าจะแปลกๆ หน่อย
พาแม่ไปเสริมสวย ไปนวดตัวนวดหน้า ทำสปา
ก็น่าจะเป็นอีกวิธีหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะด้วยสัญชาตญาณของความเป็นผู้หญิง
แม้แม่หลายคนจะสูงวัยแล้ว
แต่ก็เชื่อว่าความรักสวยรักงามน่าจะยังคงมีอยู่ในใจ

พาแม่ไปทำบุญก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง แม่บางคนแก่แล้ว
โอกาสจะไปทำบุญแต่ละครั้งค่อนข้างยาก ไม่มีคนพาไปบ้าง
หรือแม่บางคนเดินเหินไม่ค่อยสะดวกแล้วไปเองไม่ได้
หรือวัดที่อยากไปอยู่ไกลบ้าน
ก็น่าจะถือโอกาสนี้เป็นจังหวะดีที่จะได้ทำบุญร่วมกันทั้งครอบครัว
เผื่อชาติหน้าจะได้เกิดมาเป็นแม่ลูกกันอีก

พูดถึงเรื่องบุญกรรมคนสมัยใหม่อ่านเจอเข้าก็คงขำๆ มองเป็นเรื่องเหลวไหล
เพ้อเจ้อ โบราณ ไม่มีข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ แต่น่าแปลกที่เพื่อนๆ
หลายคนที่จบมาทางวิทยาศาสตร์ เป็นวิศวกร เป็นหมอ
กลับทำบุญอย่างเอาจริงเอาจัง
แถมคอยบอกผมเสมอว่าเวรกรรมและบาปบุญนั้นมีจริง
แถมยุคนี้บาปบุญปรับตัวตามทันโลกแห่งยุคดิจิทัล
คือตามทันอย่างรวดเร็วราวกับออนไลน์ ไม่เชื่อก็ลองดูได้

อีกวิธีที่ที่น่าสนใจคือการนัดกันในหมู่พี่ๆ น้องๆ
ยกขบวนกันไปกราบแม่ที่บ้านเดิม อย่างพร้อมหน้าพร้อมตา เอาดอกมะลิไปไหว้
เอาของขวัญไปมอบ หาขนมอร่อยๆ ที่แม่ชอบทาน เสื้อผ้าแนวที่แม่ชอบใส่ไปให้
ซึ่งเรามักได้ยินประโยคที่คล้ายๆ กันจากปากแม่ทุกๆ คนเสมอว่า
ไม่ต้องซื้อหาอะไรมาให้แม่หรอก เปลืองตังค์เปล่าๆ เก็บเงินไว้ใช้เถอะนะ
ขอแค่โทรมาให้แม่ได้ยินเสียงบ่อยๆ หรือแวะมาหาแม่บ้าง
แค่นี้แม่ก็มีความสุขเกินพอแล้ว

วันแม่ ลูกอย่างคุณเตรียมตัวจะทำอะไรให้แม่แล้วหรือยัง

อย่าแตะต้องผู้ถูกเจิมไว้ของพระเจ้า

เชื่อใจตนเองหรือเชื่อฟังพระเจ้า


 "'
แต่ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าอย่าให้เราแตะต้องผู้ที่
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเจิมตั้งไว้

 
ให้เราเอาหอกและเหยือกข้างพระเศียรของ
พระองค์ไปกันเถิด"
 (
1ซามูเอล
26:1)
 
 
ดาวิดมีโอกาสเหมาะไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่สองครั้ง แต่ท่านก็เลือกที่จะรอ

 
ต้องเผชิญการทดลองถึงสองครั้ง ควรจะฆ่ากษัตริย์ที่กำลังเผลอ
 
หรือรอให้เป็นเวลาของพระเจ้าดี?
 
ดาวิดเลือกที่จะรอ แลดูเหมือนท่านเลือกทำ

 "
แผน B"
 
 
ดาวิดใช้เวลาหลายปีรอคอยนับแต่วันที่ได้รับการเจิมตั้งขึ้น
เป็นกษัตริย์แห่งอิสราเอล

 
ไปจนถึงเวลาที่ได้ขึ้นครองจริงๆ
 
ท่านใช้เวลาระหว่างนั้นเลี้ยงแกะอยู่ในทุ่ง
 
เล่นดนตรีให้กษัตริย์ซาอูลฟังในวัง
 
และหลบซ่อนตัวอยู่ในถ้ำขณะหนีการตามฆ่า
ด้วยความแค้นของซาอูล ถึงกระนั้น

 
บทเพลงในหนังสือสดุดี เราเห็นว่าท่านไม่เคยสูญเสียความเชื่อ
 
แทนที่จะผิดหวังว่าทุกอย่างไม่ได้เป็นไปตามแผน A ดาวิดประกาศว่า
 
 "
แต่ส่วนข้าพเจ้าเป็นเหมือนต้นมะกอกงอกงามในพระนิเวศของพระเจ้า
 
ข้าพเจ้าพึ่งในความรักมั่นคงของพระเจ้าตลอดนิรันดร์
 
ข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์เป็นนิตย์
สำหรับสิ่งที่พระองค์ได้ทรงกระทำ

 
ข้าพระองค์จะฝากความหวังไว้กับพระนามของพระองค์
 เพราะพระนามนั้นประเสริฐ

 
ข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์ต่อหน้าบรรดาประชากรของพระองค์" (สดุดี
 52:8-9
อมตธรรม)
 
 
ท่านวางใจว่าพระเจ้าจะไม่ปล่อยให้แม้แต่เพียงชั่วครู่
 
ในสถานการณ์หรือการทดสอบสูญเสียไป
 
ท่านยึดมั่นและเชื่อว่าทุกๆเหตุการณ์สามารถนำไป
ถึงพระสัญญาที่พระองค์ให้ไว้ก่อนหน้านี้หลายปีได้

 
ท่านยึดมั่นในความหวังใจว่า วันหนึ่งข้างหน้า
 
จะได้ขึ้นครองเป็นกษัตริย์โดยไม่จำเป็นต้องเสาะแสวงหาด้วยมือตนเอง
 
 
แล้ววันนั้นก็มาถึง หลังจากการไว้ทุกข์ให้ซาอูลและโยนาธานผ่านไป
 
ดาวิดทูลถามพระเจ้า ทำตามที่พระองค์สั่ง และได้ขึ้นครองเป็นกษัตริย์
 
ท่านพร้อมแล้วที่จะก้าวไปตามแผนการอันสมบูรณ์ของพระเจ้า
 
และตามเวลาที่พระองค์จัดเตรียมไว้ ท่านไม่เคยมองกลับไปที่ทุ่งนา
 
หรือที่ในถ้ำ ท่านก้าวขึ้นสู่บัลลังก์ด้วยประสบการณ์
 
และพระปัญญาที่พระเจ้าประทานให้ผ่านขั้นตอนต่างๆ
หลายขั้นจนไปถึงวันสำคัญนั้น

 
 
ฉันเองก็ต้องตัดสินใจในเรื่องที่คล้ายๆกันขณะถามตัวเอง
ด้วยคำถามเหล่านี้
:
 
ฉันควรจะรอให้พระสัญญาของพระองค์สำเร็จ
เป็นจริงในเวลาของพระองค์

 
หรือจำเป็นต้องลงมือทำบางอย่างด้วยตัวเอง?
 
ขณะที่กำลังเดินหน้าทำในสิ่งที่เชื่อ
ว่าพระองค์ทรงเรียกให้ทำ

 
ฉันจะวางใจพระองค์ได้อย่างไร
ว่าจะทรงใช้ทุกๆก้าวระหว่างทาง

 
เพื่อทำในสิ่งที่ถูกต้องและถวายกียรติแด่พระองค์?
 
เมื่อถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนแปลง

 
ฉันกล้าก้าวเดินออกไปสู่สิ่งใหม่ๆที่น่าตื่นเต้น
 
หรือฉันควรจะหันหลังกลับไปมองที่เดิม
 
และตัดสินใจกลับไปอยู่ในที่ๆปลอดภัยและคุ้นเคยดีกว่า?
 
 
นี่เป็นการตัดสินใจที่ท้าทายมาตลอดทั้งปี ก่อนหน้านี้

 
ฉันได้ยินพระองค์ตรัสเรียกพร้อมด้วยพระสัญญาในใจ
ฉันมองกลับไปที่การศึกษา

 
หน้าที่การงาน และประสบการณ์ต่างๆที่
หล่อหลอมขึ้นเป็นความฝันของฉัน

 
ทำให้บางครั้งแผนเหล่านั้นกลับเป็นเหมือน
แผน
B แต่ไม่ใช่เลย

 
ทุกก้าวที่เดินไปด้วยใจที่เชื่อฟังได้นำฉันไปสู่ที่แห่งใหม่
 
 
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ฉันต้องตัดสินใจเลือ
กว่าจะทำงานอยู่ที่เดิมดี

 
หรือไปมองหาสิ่งใหม่ๆที่ดีกว่า เป็นงานที่ถูกเรียกมาตั้งแต่อดีต
 
แต่ครั้งนี้พระเจ้าตรัสว่า "ไม่"
 
ทรงทำให้ฉันตระหนักได้ว่าถ้าเลือกงานนี้
ก็เท่ากับฉันกำลังเลือกแผน
B
 
และที่แย่กว่าคือไม่เชื่อฟัง

 
พระเจ้าทรงเรียกให้ลูกๆของพระองค์เดินอยู่ในแผน A
ซึ่งอาจไม่สะดวกสบาย

 
ต้องอดทนรอคอย และเผชิญการทดสอบในเส้นทางนี้
 
แต่การเชื่อฟังคือการเดินอยู่ในแผน A เสมอ
 
และเป็นที่ๆพระพรของพระองค์รออยู่
 
 
โดย : Amy Carroll
 
 Encouragement for today:
www.crosswalk.com

 

Unity Flying in V shape: Geese in the the sky

  ใส่ใจ...เหมือนห่าน


คุณเคยสังเกต เห็นไหมว่า...ในฤดูใบไม้ร่วงฝูงห่านมักบินมุ่งหน้า
ไปยังทิศใต้ในลักษณะที่เป็นตัวอักษรวี (V)


จากการศึกษาตามหลักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบว่าเหตุใด
ฝูงห่านจึงต้องบินเช่นนั้น

ในขณะที่ห่านตัวหนึ่งกระพือปีก
ห่านที่บินตามมาจะได้รับแรงยกตัวเพิ่มขึ้น ดังนั้น
การที่ฝูงห่านบินเป็นตัวอักษรตัว v นั้นจะทำให้
ประสิทธิภาพการบินเพิ่มขึ้น 76 %
กว่าการบินเดี่ยวเพียงตัวเดียว

เฉกเช่น... คนที่เป็นส่วนหนึ่งของทีมซึ่งไปในทิศทางเดียวกัน
สามารถไปถึงจุดหมายได้เร็วกว่า และง่ายกว่า เพราะว่า
คนเหล่านั้นมุ่งหน้าไปโดยอาศัยความไว้วางใจในเพื่อน
ร่วมทีมคนอื่นๆ

เมื่อห่านบินอยู่ข้างหน้ารู้สึกเหนื่อยมันจะบินไปอยู่ข้างหลัง
และให้ห่านตัวอื่นบินขึ้นข้างหน้าแทน เฉกเช่น ...
เรา
ต้องมีการแบ่งปันภาวะการเป็นผู้นำ
และผลัดเปลี่ยนกันในการทำงานหนักฝูงห่านที่บิน
อยู่ข้างหลังจะส่งเสียงร้อง เพื่อให้
กำลังใจห่านที่บินอยู่ข้างหน้าให้รักษาระดับความเร็วต่อไป

เฉกเช่น ... คำพูดชมเชย และกำลังใจจะทำให้
คนที่อยู่แนวหน้ายังคงมุ่งหน้าต่อไปได้ท่ามกลางความกดดัน
และความอ่อนล้าที่ต้องเผชิญในแต่ละวัน

ท้ายที่สุด หากว่าห่านตัวใดตัวหนึ่งป่วยหรือ
ได้รับบาดเจ็บและไม่สามารถบินร่วมฝูงได้
ห่านอีก 2 ตัว จะบินตามลงมาเพื่อช่วยเหลือ
และปกป้องห่านตัวที่บาดเจ็บ จนกระทั่ง
ห่านตัวนั้นหายดีหรือว่าตายไปแล้ว ห่านทั้ง 2 ตัว
นั้นจึงจะเข้ากลุ่มกับฝูงห่านเพื่อตามหา
ฝูงห่านเดิมให้ทัน

เฉกเช่น ... หากเรามีสัญชาตญาณเหมือนห่าน
เราจะยืนเคียงข้างคนอื่นๆ ในช่วงเวลาที่เขาเกิด
ความยุ่งยากลำบากทั้งกายและใจ

หากคุณมีโอกาส ได้เห็นฝูงห่านอีก
จงอย่าลืมว่ามันเป็นรางวัล
ความท้าทาย และย้ำเตือนสิทธิพิเศษ...
ในการเป็นส่วนหนึ่งของทีม

[

Spiritual Roots of sickness

DEFINITION OF REINS

1.  nephros, a kidney (nephritis, etc.), is used metaphorically of the will and the affections. The feelings and emotions were regarded as having their seat in the kidneys.

2.  kidneys and loins, nephros - kidneys, loins - waist - heart - mind, pierced within or inward parts.

                                                                                 DEFINITION OF KIDNEY

To the Hebrews, the kidneys, because of their sensitivity, were believed to be the seat of desire. Scripture contains many eloquent assays referring to this. When a man suffers deep within himself, he is pierced within; when he rejoices, it is within his inmost being; and when he earnestly longs, his heart faints within. The kidneys also seem to provide knowledge and understanding where THE WORD is rendered mind. Job complains that God has split his kidneys open.

                                                                                   DEFINITION OF LOINS

Ancient people commonly used loins figuratively for the center of emotions such as pain or terror. It is used by euphemism for the reproductive power. The loins were especially dressed with sackcloth symbolizing a mourning heart.

Loins is used in the natural sense as the seat of generative power, metaphorically of girding the loins in readiness for active service for the Lord with truth. Bracing up oneself so as to maintain perfect sincerity and reality as the counteractive in Christian character against hypocrisy and falsehood; of girding the loins of the mind, suggestive of the alertness necessary for sobriety and for setting one's hope perfectly on the grace to be brought at the revelation of Jesus Christ.

                                                                                   EFFECT ON THE BODY

In the above biblical definitions of reins, kidney and loins you can see the importance of various effects on the body: will and affections, feelings and emotions, heart and mind, pierced within or inward parts, sensitivity, seat of desire, suffers deep within, pierced within; within inmost being; earnestly longs, heart faints within, knowledge and understanding, mind, center of emotions, pain or terror, reproductive power, mourning heart, seat of generative power, and hypocrisy and falsehood.

From these effects come diseases of the body and soul (mind, will and emotions). You can see how your thoughts can affect your being mentally, physically and spiritually.

                                                                                                 PREFACE

Kidney failure is a very difficult area to work in. I have found little in the medical or Christian literature about healing of kidneys when they fail. You can go on dialysis or have a kidney transplant but this does not heal the kidneys, it only maintains life. There are side affects associated with these methods of treatment. I am not aware of anyone who has been healed supernaturally, when the kidneys failed completely, by the prayer of faith and/or the casting out of demons.

It only takes 25% of one kidney to maintain life. Less than 25% results in death unless one of the two treatments is used. The accumulated toxins and fluid in the body kill the body.

If the kidneys have not failed completely, there is more possibility of being healed. This may take the form of diet and/or alternative medicine, pharmaceutical medicine and/or operation, anointing with oil and/or the casting out of demons or some combination of these methods.

                                                                                  SPIRITUAL PRINCIPLES

The teaching contained in this lesson could be applied to other diseases. The principles are the same but the individuals are different and have different diseases. Each person is unique with unique problems. Each person needs to be ministered to as an individual given special attention.

                                                                                    SPIRIT - SOUL - BODY

We are a tripartite being composed of a body which contains the soul and spirit. When we die our spirit and soul will go to be with THE LORD. To be in complete health, you must take care of these three parts. You can not neglect any one of these and be in health. The spirit comes from GOD and will go back to GOD. Your soul is your mind, will and emotions, and all that they contain. Your body is the physical part which contains your brain where the soul resides.

To take care of the spirit requires first becoming a Christian and then following THE HOLY SPIRIT in living a holy life free of sin. To take care of the soul requires training the brain how to follow GOD and THE HOLY BIBLE and then disciplining your body. To take care of the body requires proper use of the body and feeding the body with proper food.

A lot can be said about taking care of the body. THE BIBLE has dietary laws which are worth studying. Are you feeding your body with healthy food and drink? Are you exercising and using the body correctly in areas of sex and other areas? For instance, THE BIBLE forbids the eating of blood. What effect could eating blood have on the person: mentally, physically or spiritually?

                                                                                           SIN'S EFFECTS

THE BIBLE teaches that if you sin it will affect your body. Many times the cause and effect is clearly presented. For instance, consider the occult, witchcraft or Satan worship. These will affect your spirit, soul and body here on earth and eventually send you to Hell. If you repent over THE SCRIPTURES for some particular part of your body, you may be healed.

                                                                                    SPIRITUAL WARFARE

We are in a life and death battle with the forces of Satan. It is necessary not only to pray but to enter into spiritual warfare where you fight against the forces of evil. This should be done on a daily basis.

Spiritual Warfare Personal shows how I apply these principles to my life. Spiritual Warfare General shows how anyone can apply these principles to their lives. I use these almost daily.

                                                                                         KIDNEY DISEASE

Some medical terms for this disease for you to research are glomerulonephritis, kidney and nephritis. Renal means kidney. There are a list of names pertaining to symptoms of disease in each category.

                                                                                                DIABETES

Diabetes is called autoimmune disease, hyperglycemia and diabetes mellitus. The spiritual root behind diabetes: extreme rejection and self-hatred coupled with guilt. There is direct rejection by a father and sometimes, a husband, or a man in general. Fear, anxiety and stress is a root cause and the unloving spirit that allows self-hatred, self-rejection and guilt. Fear can be inherited. Scripture: Eze. 18:17, Exe. 20:4-5.

                                                                                 HIGH BLOOD PRESSURE

It is caused by fear and anxiety. High blood pressure is hypertension caused by fear, anxiety and stress. Scripture: II Tim. 1:7.

                                                                            PLEASANT VALLEY CHURCH

A letter from the church stated, We are still learning, but so far our experience with kidney failure is that the spiritual dynamics behind it can be rejection, self-rejection, envy, bitterness, fear, and a spirit of death, hell and destruction. These are some areas you might want to explore.

Pleasant Valley Publications has some books and tapes that are recommended for purchase. The church also conducts training and seminars.

                                                                          SPIRITUAL ROOTS OF DISEASE

GOD has shown Pastor Henry Wright of Pleasant Valley Church about spiritual roots of disease. If there is a spiritual root to the disease, the person can not be healed but has to be delivered. The sin that opened the door to the disease must be dealt with first. This is either the sins of the ancestors, someone who had spiritual authority over the person, the person or some combination of these open doors to disease.

                                                                  WELLSPRING MINISTRIES OF ALASKA

I  had a telephone discussion with Art Mathias, author of Biblical Foundations of Freedom. He stated that kidney failure may be from many different causes; he had nothing specific. He suggested working through his book and also the book, A More Excellent Way. Start with bitterness which is an open door to diseases such as cancer and arthritis. Bitterness is a strong demon, a principality.

                                                                                        OTHER DISEASES

                                                                           (The Continuing Works of Christ)

Cardiovascular System, Coronary Artery Disease: The Bible says, In the last days men's hearts shall fail them because of fear (Luke 21:26).

Hypertension: High Blood Pressure. Fear and anxiety is the root for high blood pressure. The Bible and medical science agree. What we teach is not opposed to medical science. In fact, what I see in the Bible only proves medical science and medical science only proves the Bible.

Stroke and Aneurysms: Strokes and aneurysms are the result of rage and anger, but behind the rage and anger is also fear. Do you know why people go into rage and anger? First of all, they have a root of bitterness. They are really afraid to deal with issues. Rather than being confronted on an issue and having to deal with it, they just blow up because that is their defensive mechanism. They don't want to be confronted on an issue because they are afraid of men and they are afraid of rejection.

Disturbances of Heart Rhythm: Such things as rhythmic problems. Irregular heart beat and Mitral Valve Prolapse are the result of anxiety and stress.

Muscles and Tension Headaches: We rub the back of our necks when we are under stress and tension to relieve the pain. Why not turn to God and deal with the fear and anxiety?

Muscle Contraction Backache: Again anxiety and stress is the issue. I have witnessed many healings when people have repented of the lack of faith in God and then learned to trust Him.

Rheumatoid Arthritis: There is a direct relationship between the tremendous stress of self-hatred and all automimmune disease. The person is afraid of themselves. They just don't want to face themselves. Out of that come self-hatred, out of that comes the guilt, out of that comes the conflict that causes the white corpuscles to attack the connective material of the bones, and eat at it, and produce rheumatoid arthritis.

Pulmonary System: Asthma and Hay Fever. John Hopkins University is now teaching that Hay Fever and Asthma are not caused by air born allergens. It has nothing to do with breathing, dander, dust, pollen, etc. Anxiety and fear cause it. It can be inherited, but it's coming out of deep-rooted anxiety and fear. I have proved this many times over.

Immune System: Immunosuppression or Immune Deficiency and Autoimmune Disease: Over secretion of cortisol and catecholamines destroy the immune system, and the result is autoimmune diseases. The Hypothalamus controls over 23 hormones including these two. Autoimmune diseases occur when the white corpuscles attacks living flesh and destroy it. Lupus, Crones, Diabetes, Rheumatoid Arthritis, and MS are examples.

We have learned that the body attacks the body as a person attacks themselves spiritually in self-rejection, self-hatred, and self-bitterness. The body agrees with the mind and starts attacking itself. That is a high price to pay for not loving yourself.

Gastrointestinal System: Ulcers. For years the medical community believed that stress and anxiety caused an irritation in the stomach, which eventually caused the ulceration. Recently they have begun to prescribe antibiotics are are telling us that a bacteria or viruses cause ulcers.

People who have ulcers also have compromised immune systems because of the anxiety and stress. When you have a compromised immune system, you don't have the ability to defeat bacteria and viruses. The fear and anxiety come first and the bacteria and viruses show up after the immune system is compromised.

There are a number of gastrointestinal problems that are caused by anxiety and stress. They include Irritable Bowl Syndrome (IBS), diarrhea, nausea, vomiting, and ulcerated colitis.

Every single malfunction in the gastrointestinal tract is caused by anxiety and stress. The peace of God in your heart regarding issues in your life is the cure. (With the exception of Crones disease, which is an autoimmune disease.)

Genital Urinary System: Diuresis, Impotence, and Frigidity are caused by anxiety and fear.

Skin: Eczema, Acne, Dermatitis: Adolescent acne is caused by fear coming from peer pressure. It is not a genetic or biologic problem by itself, but in most cases the kids are afraid of other kids. That level of fear and anxiety triggers increased histamine secretion. It also increases white corpuscle activity in the epidermis thus causing acne.

Endocrine System: Diabetes and Amenorrhea

Central Nervous System: Fatigue and lethargy, Type A behavior, overeating, depression, and insomnia are all cause by fear and anxiety and stress.

                                                                                     PASTOR RON TIFFIN

I had a telephone discussion with Pastor Ron Tiffin of British Columbia, Canada concerning the healing of chronic kidney disease of various people that the church has ministered to; they had amazing success. God showed him that kidneys are mentioned as reins in THE BIBLE. The deep roots are jealousy, envy and rejection which must be overcome.

You are set free by THE TRUTH OF THE BIBLE which is an ongoing process of learning: line upon line, precept upon precept, a little here a little there. The person must be taught THE TRUTH OF GOD, ministered what was taught and prayed for. John The Baptist said to clear the pathway for JESUS CHRIST. As we follow the pathway to GOD, we rectify sins and clean up our lives opening the pathway for healing. Through the teaching of THE WORD OF GOD, a person needs to know how they got into trouble and how they got out of trouble, or they will go back into trouble.

You must turn to GOD rather than man. THE BIBLE IS first and foremost rather than men's books which are to only be used as support for THE BIBLE. You must agree with THE TRUTH OF GOD and receive it into your heart.

You need to believe that you are accepted, loved and worthy. Every person needs individual ministry. You can not heal a broken heart; it must be mended by a father's love either by GOD or man. This could be a pastor or minister  with the heart of the Father.

There is tremendous turmoil and need in THE BODY OF CHRIST JESUS. Many times it is father or mother who didn't do their parenting properly and the person has turned against them in some way. There can be denominational bondage due to false teaching. There are generational curses, abuses in the family line, racism, and other means that opens the person's spiritual armor to penetration by diseases and demons.

The person needs to recount their problems to the minister. This is the spiritual profile of the individual who must be brutally honest.

                                                                                         VICTORIA WEBB

                                                                                              Conversation

I had a telephone discussion with Victoria Webb of British Columbia, Canada who had a healing of her kidneys. She used the methods of her church and Pleasant Valley Church along with THE HOLY SPIRIT teaching her. Kidney disease is like a planter wart with many spiritual roots. This is a delicate and difficult matter. She received a Miracle of Mercy.

                                                                                            Positive Actions

Positive things to do are: line up with GOD in repentance, live up to GOD's WORD, walk in resurrection life, die to self, live for Him, agree with THE WORD, exercise the power of prayer,  control your reins, read scripture and pray. Get the elders of the church to anoint with oil, lay hands on the sick, have the church to pray for healing and receive beauty for ashes.

                                                                                           Negative Actions

Negative things not to do are: make a bitter-root judgment, speak death, don't love self, blame GOD, be angry with GOD, think and talk death, and make a covenant with death.

                                                                                            Effect of Others

You can be affected by your family or others who have spiritual authority over you: generational curses and curses in immediate family; family alienation, strife, bitterness and bad blood; mental and emotional abuse; medical diagnosis speaking a curse; living in a death world; and betrayal, abuse and lying.

                                                                                          Names of Demons

She mentioned the following which can be used for names of demons: root of bitterness, kidney stone, cancer, nephritis, unforgiveness, deep hurt, self-hatred, rejection, bitterness, destruction, high blood pressure, fear, trauma, heart disease, broken spirit, unloving spirit, murderous rage, anger, guilt about bondage, rebellion, witchcraft, black magic, hypertension, broken heart, and other related ailments. Assume the names of what is wrong with the person are the names of demons.

                                                                                  MEDICAL DICTIONARY

A handy tool to use in deliverance is a medical dictionary. You can look up the name of the disease and its symptoms. Use the name as the ruler demon and the symptoms as the lesser demons. Think of it as a family with a head and members of that family. This method has proved successful in some instances.

                                                                   NEPHROLOY FAMILIES OF DISEASES

Kidney failure has certain families of diseases. Consider these families because they have different symptoms in each grouping. These come under the category of nephrology. The following are conditions: acute glomerulonephritis, chronic glomerular, hypertension nephrosclerosis, nephritis, acute interstitial nephritis, acute renal failure, acute tubular necrosis, chronic renal failure, diabetic nephropathy, hematuria, ischemic nephropathy, kidney stones, nephrotic syndrome, polycystic kidney disease, proteinuria and microalbuminuria, renal artery stenosis and renal vascular hypertension.

The kidneys can be affected by high blood pressure and diabetes which destroy the nephrons in the kidney and cause fluids to be retained in the heart. Other families that need to be considered are hypertension and diabetes.

                                                                                            WORK BOOKS

THE BIBLE is your main book. You have to study the whole BIBLE for mental, physical, spiritual and material health. It is recommended that you work your way through the books, A More Excellent Way, Biblical Foundations of Freedom, and Deliverance Manual. Healing and deliverance go hand-in-hand together; they compliment each other. You can be healed by deliverance, divine healing or a combination of both. Completely read the books and follow the instructions. The time spent is worthwhile if you want to be delivered and healed. It may be the only way to rid yourself of disease because these are complex areas and humans are complex beings.

                                                                                            REFERENCES

I recommend the purchase of the books from Pleasant Valley Publications, at least one medical dictionary and the Deliverance Manual.

A More Excellent Way  (I Corinthians 12:31 - A Teaching on the Spiritual Roots of Disease - The Ministry of Pastor Henry Wright), Pleasant Valley Publications, A Division of Pleasant Valley Church, Inc., Thomaston, GA 30286

Biblical Foundations of Freedom (Destroying Satan's Lies with God's Truth) by Art Mathias, Pleasant Valley Publications

Taber's Cyclopedic Medical Dictionary, F.A. Davis Company

PDR Medical Dictionary, Medical Economics

Vine's Complete Expository Dictionary of Old & New Testament Words by W.E. Vine, Merrill F. Unger and William White, Jr.

The New Unger's Bible Dictionary by Merrill F. Unger

The New Strong's Exhaustive Concordance Of The Bible by James Strong

Deliverance Manual by Gene and Earline Moody. Also Spiritual Warfare Manual, How To Do Deliverance Manual, Sexual Deliverance Manual, Witchcraft Deliverance Manual, Curses Deliverance Manual and Healing Deliverance Manual are additions to the Deliverance Manual which may assist you in being delivered and healed.

The Father's Blessing - Imparting The Blessings Of God To Your Children by Frank D. Hammond

The Continuing Works of Christ by Art Mathias, Wellspring Ministries of Alaska, Anchorage, AK


Source: http://www.moodymanual.demonbuster.com/healingf.html


http://www.cwlinc.com/ls.spiritual-roots-of-illness.htm


http://www.passionatehealthonline.com/spiritual_roots.html


http://www.lifeapplicationministries.org/index.html

จงขอบพระคุณพระเจ้าทุกกรณี

ขอบพระคุณเสมอ

เอเฟซัส 5:20-21 กล่าวว่า
"จงขอบพระคุณพระเจ้าคือพระบิดาสำหรับสิ่งสารพัดเสมอ
ในพระนามของพระเยซูคริสตเจ้าของเรา
จงยอมฟังกันและกันด้วยความเคารพในพระคริสต์"

ชีวิตคนเรามีอยู่สี่ระดับ

มีคนบางจำพวกที่เอาแต่บ่นต่อว่า คุณเคยเจอคนแบบนี้บ้างไหมครับ?
พวกเขาสามารถทำให้ห้องโล่งได้ทันทีที่ก้าวเข้ามา เรียกว่าเป็นระดับต่ำสุด

ต่อไป เป็นจำพวกที่ดำเนินชีวิตแบบไม่กตัญญูรู้คุณ คนพวกนี้จะไม่บ่น
แต่ก็ไม่เคยขอบคุณพระเจ้าสำหรับพระพรที่เห็นได้ชัดเจน
จัดอยู่ในระดับดีขึ้นมาหน่อย แต่ก็ไม่ถึงกับดีอะไร

แล้วก็ บางพวกที่ขอบคุณพระเจ้าสำหรับพระพรที่เห็นได้ชัดเจน
เมื่อมีสิ่งดีๆเกิดขึ้น พวกเขาจะรู้สึกกตัญญู
นับเป็นระดับขั้นที่เรียกว่าดี

ระดับสูงที่สุดคือพวกที่ขอบคุณพระเจ้าได้ในทุกกรณีและทุกเวลา
นี่คือเคล็ดลับของชีวิตที่มีความสุขและเกิดผล
โดย: Pastor Adrian Rogers

จาก: Daily treasure from the Words

Love worth finding ministries: www.lwf.org

RE: [ข่าวคริสตชน www.KaoChristian.com] HOME:ครอบครัวสุขสันต์ "สัมผัสด้วยใจ สร้างได้ด้วยการกระทำ"

 Subject: ครอบครัวสุขสันต์ "สัมผัสด้วยใจ สร้างได้ด้วยการกระทำ"
 From: Pattamarot Maksuriwong <pattamarot@hotmail.com
 Date: 2010/9/27
  
 HOME:
ครอบครัวสุขสันต์ "สัมผัสด้วยใจ สร้างได้ด้วยการกระทำ"
  
โดยปัทมโรจน์ มากสุริวงศ์ คริสตจักรแห่งพระบัญชา กรุงเทพฯ
 
 
ผมได้มีโอกาสไปให้โอวาทในงานแต่งงานของพี่น้องในคริสตจักร
 
เมื่อวันเสาร์ที่ 25 กันยายน ที่ผ่านมา
 
มีข้อคิดน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้อ่าน จึงได้นำมาแบ่งปันในวันนี้
 
  
ผมคิดว่าปัญหาครอบครัวเป็นปัญหาใหญ่ในสังคมไทย
 
ไม่ว่าจะเป็นการหย่าร้าง การนอกใจคู่สมรส
 
เด็กเกิดมาขาดความรักจากผู้เป็นพ่อแม่ เนื่องจากมีลูกเมื่อยังไม่พร้อม
 
เพราะมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร หน่วยงานในสังคมพยายามแก้ไขปัญหา
 
โดยรณรงค์ใช้อุปกรณ์ "คุมกำเนิด" ในความคิดผมคิดว่าเป็นการแก้ที่ปลายเหตุ
 
แทนที่จะ "คุมกำเนิด" ผมว่าควรจะ
 "
คุมกำหนัด"น่าจะดีว่าเพราะเป็นการแก้ไขที่กระบวนความคิด คิดถูก
 
การกระทำที่ถูกก็ตามมา
 
  
ตามหลักการของพระคัมภีร์สอนเราในเรื่องเพศ
 
ว่าต้องคิดให้ถูกต้อง คิดผิดก็เป็นความบาปทางความคิด
 
ต้องจัดการควบคุมไม่ส่งผลทำผิดทางการกระทำ เรียกว่า "คุมกำหนัด"
 
 
มัทธิว 5:27-28
 
 27 "
ท่านทั้งหลายได้ยินคำซึ่งกล่าวไว้ว่า อย่าล่วงประเวณีผัวเมียเขา
  28
ฝ่ายเราบอกท่านทั้งหลายว่า
 
ผู้ใดมองผู้หญิงเพื่อให้เกิดใจกำหนัดในหญิงนั้น
 
ผู้นั้นได้ล่วงประเวณีในใจกับหญิงนั้นแล้ว
 
  
ก่อนที่จะเลือกใครสักคนมาแต่งงานและอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัว
 
ต้องแสวงหาการทรงนำจากพระเจ้า และพัฒนาความสัมพันธ์ จากการเป็นเพื่อน
 
เป็นคู่รัก คู่หมั้นและคู่สมรส
 
ผมขอบคุณพระเจ้าสำหรับผู้นำในคริสตจักรที่สอนผม
 
และให้คำแนะนำตั้งแต่ก่อนแต่งงาน จนมีชีวิตครอบครัว การรู้จักกันดีพอ
 
ทำให้เกิดความเข้าใจและมาสู่การตัดสินใจร่วมกันในการสร้างครอบครัว
 
 
มีบทเพลงจากหนังเรื่องหนึ่ง ร้องว่า "ยินดีที่ไม่รู้จัก ไม่รู้จัก
 
แค่รู้ว่ารักก็พอใจ แค่คำว่าไม่รู้จัก ไม่รู้จัก
 
รักเราก็ไม่ได้น้อยลงจริงไหม แค่มีเธอใกล้ๆ มันก็ใช่ ที่สุดแล้ว"
 
 
เนื้อหาข้างต้นเป็นท่อนร้องรับของเพลงวัยรุ่นที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้
 
และเป็นเพลงประกอบภาพยนต์ที่กำลังทำเงินอย่างมากมาย
 
เนื้อหาของภาพยนต์คือ ชายหนุ่มอกหักคนหนึ่งได้เดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ
 
ต่อมาพลัดหลงกับกลุ่มทัวร์ และได้ไปพบกับนางเอกที่เดินทางไปเที่ยวคนเดียว
 
และมาโดนแฟนบอกเลิก ทำให้ทั้งคู่สนิทสนมกัน เป็นเพื่อนกัน
 
และลงเอยด้วยรักกัน โดยที่ทั้งสองคนไม่รู้จักแม้นแต่ชื่อเสียงเรียงนาม
  
 
หนังเรื่องนี้ ชื่อว่า "กวน มึน โฮ" แต่ ผมขอเปลี่ยนเป็น "ชวน มา
 
โฮม(Home)" ชวนมาอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน สร้างครอบครัวด้วยความรัก
 
เริ่มต้นจากความรู้จัก จนมั่นใจ และตัดสินใจ ไม่ใช่ความสัมพันธ์ชั่วคืน
 
เป็นความสัมพันธ์ชั่วคราว แบบเพลง"ไม่รู้จักเธอไม่รู้จักฉัน"
 
เพลงประกอบหนังเรื่อง "สายลับจับบ้านเล็ก"
 
 
ดังนั้นควรจะเลือกใครคนที่ใช่ ไม่ใช่คนที่ชอบ เพราะบางทีคนถูกใจ
 
บางทีอาจจะไม่ถูกต้อง เพราะเราต้องแสวงหาการทรงนำจากพระเจ้าเพื่อแต่งงาน
 
กันมาอยู่ในครอบครัวเดียวกัน
 
 
ปฐมกาล 2:24 เพราะเหตุนั้นผู้ชายจึงจากบิดามารดาของตนไปผูกพันอยู่กับภรรยา
 
และเขาทั้งสองจะเป็นเนื้อเดียวกัน
 
 
ผ มเชื่อว่า พระคริสตธรรมคัมภีร์ (Bible) เป็นคู่มือแห่งชีวิต
 
เป็นข้อปฏิบัติพื้นฐานในทุกด้านก่อนเราออกจากโลกนี้ (BIBLE : Basic
 Instruction Before Leaving Earth)
รวมถึงการดำเนินชีวิตครอบครัว
 
  
ขอนำหลักการพระคัมภีร์ มาเรียงร้อยเป็นคำภาษาอังกฤษ คือ คำว่า"HOME" คือ
  
บ้านนี้ต้องพระเจ้าเป็นศูนย์กลาง สดุดี 127:1
 
ถ้าพระเจ้ามิได้ทรงสร้างบ้าน บรรดาผู้ที่สร้างก็เหนื่อยเปล่า
 
ถ้าพระเจ้ามิได้ทรงเฝ้าอยู่เหนือนคร คนยามตื่นอยู่ก็เหนื่อยเปล่า
 
 
มีบทกวีบทหนึ่งของ Frank Crane กล่าวไว้ว่า ... ความงดงามของบ้าน คือ
 
ความปรองดองกลมเกลียว ความมั่นคงของบ้าน คือ ความภักดีที่มีต่อกัน
 
 
ความยินดีของบ้าน คือ ความรัก ความหลากหลายของบ้าน คือ ลูก ๆ
 
ที่อยู่ร่วมกันในบ้าน กฎของบ้าน คือ การรับใช้ปรนนิบัติกันและกัน และ
 
ผู้ค้ำจุนบ้านนี้ ก็คือ "
 
   "
ครอบครัวสุขสันต์ สัมผัสด้วยใจ สร้างได้ด้วยการกระทำ"
 
 H-Honor :
ครอบครัวที่ให้เกียรติต่อกัน เป็นที่นับถือต่อคนทั้งปวง
 
 
ให้ความหมายถึง สิ่งที่ควรค่าแก่การให้เกียรติ ฮีบรู 13:4
 
จงให้การสมรสเป็นที่นับถือแก่คนทั้งปวง
 
และให้เตียงสมรสปราศจากความชั่วช้าเพราะคนมีชู้ และคนที่ล่วงประเวณีนั้น
 
พระเจ้าจะทรงพิพากษาโทษเขา
  
 
พระคัมภีร์ให้ความสำคัญในชีวิตสมรสต้องเป็นที่นับถือ
 
อยู่ในความบริสุทธิ์(Holy)
 
ภาพงานสมรสในโลกนี้เป็นภาพสะท้อนความสัมพันธ์ในทางที่บริสุทธิ์
 
ของผู้เชื่อ (คริสตจักร)เป็นเจ้าสาว และพระเจ้าเป็นเจ้าบ่าว (คำว่า Holy
 
คือการรักษาความบริสุทธิ์ ให้เป็นที่นับถือ แยกไว้สำหรับพระเจ้า)
 
  
เอเฟซัส 5:24-28
 
 24
คริสตจักรยอมฟังพระคริสต์ฉันใด ภรรยาก็ควรยอมฟังสามีทุกประการฉันนั้น
 
 25
ฝ่ายสามีก็จงรักภรรยาของตน เหมือนอย่างที่พระคริสต์ทรงรักคริสตจักร
 
และทรงประทานพระองค์เองเพื่อคริสตจักร
 
 26
เพื่อจะได้ทรงทำให้คริสตจักรบริสุทธิ์ โดยการทรงชำระด้วยน้ำและพระวจนะ
 
 27
เพื่อพระองค์จะได้มีคริสตจักรที่มีสง่าราศี ไม่มีตำหนิริ้วรอย
 
หรือมลทินใดๆเลย แต่บริสุทธิ์ปราศจากตำหนิ
 
 28
เช่นนั้นแหละ สามีจึงควรจะรักภรรยาของตนเหมือนกับรักกายของตนเอง
 
ผู้ที่รักภรรยาของตนก็รักตนเอง</em
 
 
คำว่า "Honor"ไม่ใช่ Horror"หมายถึงหนังสยองขวัญ
 
คงจะสยองขวัญแน่ก็ครอบครัวไม่สงบ เหมือนดังบทเพลง "Home" ของคุณธีร์
 
ไชยเดช เนื้อหาประมาณว่า "ดอกไม้ ประตู แจกัน ดินทราย ต้นไม้ใหญ่ แก้วน้ำ
 
จานชาม บันได โคมไฟ ที่สวยงาม ...บ้านนี้จะงามอย่างไร ถ้าไม่มีเธอ
 
ให้ความหมายว่า มีเธอบ้านก็จะงดงาม แต่ถ้าไม่มีความรัก ไม่ให้เกียรติกัน
 
ข้าวของที่กล่าวมา ก็จะเป็น แก้วน้ำ แจกัน จานบินที่ขว้างไส่กัน
 
 
ดังนั้นอยู่ในบ้านเดียวกัน ต้องเอาใจใส่กันให้เกียรติต่อกัน
 
มีคำเรียกใหม่ ว่า "ที่รัก" หรือ "ฮันนี่ (Honey)"เป็นต้น
 
มาจากความรักที่ให้เกียรติผู้ที่เป็นสามีหรือภรรยา
 
เพราะเรียกมาจากความรู้สึกข้างใน และต้องรักษาสิ่งนี้แม้เวลาเปลี่ยนไป
 
หรือ สังขารจะเปลี่ยนแปลง อย่ามีคำพูดที่เรียกแทนชื่อว่า "ตาแก่ ยายแก่"
 
จาก "ฮันนี่ ที่รัก" กลาย "หันหนี" หันหนีหายไปจากบ้าน
 
 
และครอบครัวจะต้องรักษาความบริสุทธิ์ในทางชอบธรรม ไม่ผิดประเวณี
 
นอกใจคู่สมรส เป็นแบบอย่างจนเป็นที่นับถือของคนทั้งปวง
 
  O-Offering :
ครอบครัวแห่งการให้ ให้ความรักต่อกัน
 
และแบ่งปันความรักออกไปสู่ผู้อื่น
 
 
เราอาจจะให้ได้แม้ไม่ได้รัก แต่ถ้ารักแล้วเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ให้
 
ความรักในครอบครัวไม่ใช่ให้แค่กันและกันแต่เป็นการให้ความรักออกไป
 
 
มีคำกล่าวว่า "การแบ่งปันความสุขให้ผู้อื่น
 
เพิ่มความสุขให้กับตนเองเป็นสองเท่า การแบ่งเบาความทุกข์ของผู้อื่น
 
ลดความทุกข์ของตนเองลงครึ่งหนึ่ง"
 
  
การให้ทำให้เกิดสุขทั้งผู้รับและผู้ที่ให้
 
พระเจ้าจึงสอนคริสตชนให้รักเพื่อนบ้าน เหมือนรักตนเอง
 
และแจกจ่ายความรักโดยให้ออกไป
 
ดังที่พระเจ้าได้สำแดงความรักที่ยิ่งใหญ่แก่คนบาปแบบเราคือ
 
ให้พระเยซูคริสต์มาตายเพื่อเรา (ยน.3:16)
 
นั่นเป็นสิ่งที่เมื่อเรามาแต่งงานเป็นครอบครัวแล้ว
 
ไม่ใช่มองที่คนสองคนเข้ามากันเท่านั้น
 
แต่มองไปข้างหน้าด้วยกันไปถึงผู้อื่นและให้สิ่งที่ดีที่สุดออกไป คือ
 
ข่าวประเสริฐ (Gopel) ไปถึงคนสุดปลายแผ่นดิน (กจ.1:8) (GOSPEL คือ God
 Offers Sinful People Eternal Life.
 
พระจ้าทรงประทานชีวิตนิรันดร์ให้กับคนบาป)
 
 
เพลงโซโลมอน 8:7 น้ำมากหลายไม่อาจดับความรักให้มอดเสียได้
 
หรืออุทกธารทั้งหลายไม่อาจท่วมความรักให้สำลักตายเสียได้
 
แม้ว่าคนใดจะเอาทรัพย์สมบัติในเหย้าเรือนของตนทั้งสิ้นมาแลกกับความรักนั้น
 
คนนั้นคงได้รับความหมิ่นประมาทจากคนทั้งหลายเป็นอย่างยิ่ง
 
 
การให้ด้วยความรักเป็นพลังที่สร้างสรรค์ที่มีอานุภาพมากกว่าพลังที่ทำลายล้าง
 
ความรักนั้นไม่มีอะไรที่ทำลายล้างได้
 
โลกนี้จะน่าอยู่หากเราหยิบยื่นความรักให้กัน
 
  
ค.ศ.1905 อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์(Albert
 Einstein)
เผยแพร่ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ (Special Relativity Theory)
 
ผลลัพธ์สำคัญอันหนึ่งคือ E = mc2
 
ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษเป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติแต่น่าเสียดายที่ทฤษฎีนี้ถูกนำไปพัฒนาออกมาเป็นระเบิดปรมาณู
 
ที่มีพลังในการทำลายล้าง
  
 
สมการ E = mc2 คือ E(Energy) เป็นพลังงาน เท่ากับ กำลัง 2 เท่าของ M(
 Mass)
มวล รวมกับ C ความเร็วของแสงในศูนยากาศ (speed of light in a
 vacuum)
 
 
ผมขออนุญาตเปลี่ยนสมการนี้เป็นทฤษฎีใหม่ จาก "ทฤษฎีสัมพัทธภาพ" เป็น
 "
ทฤษฎีสัมพันธภาพ (Relationship Theory)"
 
 
สมการจะเป็นแบบนี้ครับ E = mc2 คือ Energy of love = Marriage
 Covenant 2 to be 1
 
ความสัมพันธภาพในครอบครัวพันธสัญญาสองคนเป็นหนึ่งเดียว
 
ด้วยความรักจะเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ เป็นกำลังสองของคนสองคนไปสู่คนทั้งปวง
 
ครอบครัวต้องให้ความรักต่อกัน และเพิ่มพูนความรักขึ้นและส่งต่ออกไป
 
 M-Meekness -
ครอบครัวที่ถ่อมสุภาพ เรียนรู้จักกันและกัน
  
 
คำว่า Meekness ให้ความหมาย : ความนอบน้อม
 
 
โคโลสี 3:12 เหตุฉะนั้นในฐานะที่เป็นพวกซึ่งพระเจ้าทรงเลือกไว้
 
เป็นพวกที่บริสุทธิ์และเป็นพวกที่ทรงรัก จงสวมใจเมตตา ใจปรานี ใจถ่อม
 
ใจอ่อนสุภาพ ใจอดทนไว้นาน สุภาพอ่อนโยนให้เกียรติต่อกันและกัน
 
 Colosians 3:12 Put on therefore, as the elect of God, holy and
 beloved, bowels of mercies, kindness, humbleness of mind, meekness,
 longsuffering;
 
 
มัทธิว 5:5 "บุคคลผู้ใดมีใจอ่อนโยน ผู้นั้นเป็นสุข
 
เพราะว่าเขาจะได้รับแผ่นดินโลกเป็นมรดก
 
 Matthew 5:5 Blessed are the meek: for they shall inherit the earth.</em
 
 
ความถ่อมใจอ่อนสุภาพจะเป็นเหมือน "แม่เหล็ก" จะเป็นแรงดึงดูดเข้าหากัน
 
แต่ความโกรธ ฉุนเฉียว เจ้าอารมณ์เป็นอาร์ทตัวพ่อ หรือ เอาแต่ใจตัวแม่
 
จะเป็น เหล็กไน ที่ทิ่มแทงและเกิดความอักเสบในชีวิตครอบครัว
 
 
ดังนั้นความถ่อมสุภาพจะเป็นการทำให้เกิดการเรียนรู้จักกันและกัน
 
อดทนต่อกันและกัน ไม่ใช้อารณ์แต่ใช้เหตุผลในการพูดคุยกัน
 
เและความถ่อมสุภาพจะช่วยผ่อนหนักผ่อนเบา
 
ให้ชีวิตครอบครัวดำเนินไปได้ด้วยดี
 
และสิ่งสุดท้ายที่จะทำให้ครอบครัว HOME สมบูรณ์ คือ
 
 E-Encouragement
ครอบครัวแห่งการหนุนใจให้กำลังใจกัน
 
 
ครอบครัวจึงเป็นบ้านที่พักใจแบบSeries หนังเกาหลี เรื่อง Full House
 
สะดุดรัก...ที่พักใจ ที่พักใจที่เป็นแบบเต็มใจ Full Heart
 
บ้านจึงเป็นที่พักใจ แม้ไม่ใหญ่โตแต่สบายใจ คับที่อยู่ได้
 
แต่คับใจอยู่ยาก
 
กินผักในที่มีความรักก็ดีกว่ากินเนื้อย่างเกาหลีในที่มีความเกลียดชัง
 
รสชาติอาหารก็ไม่ดีเท่าบรรยากาศ กินอะไรไม่สำคัญเท่ากินกับใคร จริงไหม
 
แม้เกาหลีจะกลายเป็นเกาเหลา ไม่กินเส้นกัน
 
 
สุภาษิต 15:17 กินผักเป็นอาหารในที่ที่มีความรัก
 
ก็ดีกว่ากินเนื้อวัวอ้วนพร้อมกับความเกลียดชังอยู่ด้วย
 
 
ปัญญาจารย์ 4:9-12
 9
สองคนดีกว่าคนเดียว เพราะว่าเขาทั้งสองได้รับผลของงานดี
 
 10
ด้วยว่าถ้าคนหนึ่งล้มลง อีกคนหนึ่งจะได้พะยุงเพื่อนของตนให้ลุกขึ้น
 
แต่วิบัติแก่คนนั้นที่อยู่คนเดียวเมื่อเขาล้มลง
 
และไม่มีผู้อื่นพะยุงยกเขาให้ลุกขึ้น
 
 11
อนึ่ง ถ้าสองคนนอนอยู่ด้วยกัน เขาก็อบอุ่น แต่ถ้านอนคนเดียวจะอุ่นอย่างไรได้เล่า
 
 12
แม้คนหนึ่งสู้คนเดียวได้ สองคนคงสู้เขาได้แน่
 
เชือกสามเกลียวจะขาดง่ายก็หามิได้</em
 
 
ครอบครัวต้องสนับสนุนกันในทางที่ดีที่ถูกที่ควร
 
ความรักที่แท้ต้องสนับสนุนให้ทำความดี
 
ความรักแท้ต้องสนับสนุนให้มีกำลังใจ
 
ความรักแท้ต้องสนับสนุนให้คนมีความหวังใจ ไม่ใช่สนับสนุนกันในทุกทาง
 
แต่ต้องสนับสนุนกันให้ถูกทางของพระเจ้า
 
  
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ข้อคิด เรื่อง HOME:ครอบครัวสุขสันต์
 "
สัมผัสด้วยใจ สร้างได้ด้วยการกระทำ" จะเป็นประโยชน์
 
สำหรับคนที่มีครอบครัว คนที่วางแผนจะแต่งงานและสร้างครอบครัวในอนาคต
 
และเป็นประโยชน์สำหรับผู้อ่านครับ
 
 
ขอพระเจ้าอวยพระพรครับ
 
 
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://pattamarot.blogspot.com/
 
เข้าไปฟังคำสอนของอ.นิมิต พานิช และอ่านบทความต่างๆได้ที่
 http://www.uccfellowship.com/